logo
image

icon-travel-2 10 แลนด์มาร์ค ญี่ปุ่นไปแล้วต้องโดน

10 แลนด์มาร์ค ญี่ปุ่นไปแล้วต้องโดน

พฤศจิกายน 13, 2019
แชร์ :

ถ้าใครกำลังมีแผนไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวทัวร์ญี่ปุ่นที่ไหน เราก็มีตัวช่วย
10 แลนด์มาร์คเด็ดทัวร์ญี่ปุ่น ลองมาดูกัน ว่าในแต่ละจุดของญี่ปุ่น
นั้นจะไฮไลท์เด็ดตรงไหนบ้าง

Arashiyama (ป่าไผ่อาราชิยาม่า)

ขอปิดท้ายด้วยแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งของเกียวโต ที่น่าทึ่ง และงดงาม ทั้งในช่วงฤดูใบไม้ผลิ
และฤดูใบไม้เปลี่ยนสี จุดเด่นก็หนีไม่พ้นการเดินถ่ายรูปเลียบป่าไผ่ที่งดงาม เพราะเป็นทางเดิน
ลัดเลาะป่าไผ่ที่ถือว่ามีชื่อเสียงมากแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น โดยนักท่องเที่ยวก็สามารถเดินถ่ายรูป
หรือว่าจะเช่าจักรยานเพื่อปั่นชมป่าไผ่ รวมไปถึงคนที่อยากถ่ายรูปก็สามารถเช่าชุดกิโมโน
หรือใช้บริการรถลากได้

Nara Park

ถ้าพูดถึงสัญลักษณ์ของเมืองนารา (Nara) จะเป็นอะไรไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่กวาง
เพราะมีความเชื่อกันว่ากวาง เป็นสัตว์ที่คอยรับใช้เทพเจ้า ซึ่งภายในเมืองนารานี้
ก็จะมีกวางเดินอยู่ทั่วทั้งเมือง ไม่ว่าจะเป็นตามสวนสาธารณะ หรือว่าศาลเจ้าก็ตามที
โดยภายในสวนกวาง หรือว่า Nara Park จะมีกวางอยู่เป็นจำนวนมากกว่า 1,000 ตัวด้วยกัน
แนะนำว่าถ้าใครอยากถ่ายรูปกับกวางอย่างใกล้ชิด ให้ลองซื้อขนมเซมเบ้ที่มีขายอยู่โดยรอบ
คนที่ไปเที่ยวโอซาก้า ก็สามารถแวะไปเที่ยวเมืองนารา (Nara) ได้แบบไปเช้าเย็นกลับ

Jigokudani Monkey Park

ชมลิงที่เมืองไทยอาจจะธรรมดาเกินไป แนะนำให้ลองมาชมลิงแก้มแดงของญี่ปุ่น
ที่จะลงมาอาบน้ำพุร้อนที่สวนสาธารณะ ‘Jigokudani Monkey Park’
ที่อยู่ภายในหุบเขา ‘Jigokudani valley’ ในจังหวัดนากาโน (Nagano) จุดเด่นก็คือลิงหิมะ
ที่จะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาแช่ออนเซ็นในบ่อร้อนๆ ในช่วงฤดูหนาววันที่หิมะ
โปรยปราย นอกจากนั้นใกล้ๆ กันนั้นยังมีจุดแช่บ่อน้ำพุร้อนสาธารณะ
สำหรับคนที่อยากลองแช่ออนเซ็นก็ไปเที่ยวกันได้

หมู่บ้าน Shirakawa-go

เป็นแลนด์มาร์คหนึ่งในญี่ปุ่นที่เห็นจากภาพถ่ายแล้วเห็นความงดงามจนไม่นึกว่าจะมีอยู่จริง
ซึ่งหมู่บ้าน Shirakawa-go เป็นอีกหนึ่งหมู่บ้านที่เป็นมรดกโลก จุดเด่นคือทรงบ้านโบราณ
ที่ชื่อว่ากัสโชซุคุริ (Gassho-Zukuri) ที่มีอายุมากกว่า 250 ปี ที่ตั้งเรียงรายกันเหมือนกับบ้าน
ในนิทาน ซึ่งถ้าหากใครที่อยากเห็นภาพหมู่บ้านประวัติศาสตร์นี้ในช่วงที่สวยที่สุด
แนะนำให้ไปในช่วงฤดูหนาว เพราะหิมะจะตกลงมาโปรยปรายปกคลุมลงบนหลังคาบ้าน
ทรงมือพนม จนเกิดเป็นภาพที่งดงาม เหมือนหมู่บ้านแห่งนี้หลุดออกมาจากในหนังสือนิทานจริงๆ

Itsukushima Shrine (ศาลเจ้าลอยน้ำ)

อีกหนึ่งศาลเจ้าที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองฮิโรชิม่า (Hiroshima) ซึ่งถ้าใครมีโอกาส
ได้มาเที่ยวที่เมืองฮิโรชิม่านี้ เราก็ไม่อยากให้พลาด โดยที่ตั้งของศาลเจ้าลอยน้ำแห่งนี้
นั้นอยู่บนเกาะมิยาจิม่า (Miyajima) โดดเด่นด้วยการสร้างศาลเจ้าให้มีลักษณะเป็นแพ
ดังนั้นทำให้เวลาน้ำขึ้น ศาลเจ้าก็จะไม่จมลงไป จะเหมือนกับลอยน้ำอยู่ตลอดเวลา
สมัยก่อนมีความเชื่อว่าเกาะมิยาจิม่านั้นเป็นเกาะศักดิ์สิทธิ์ คนธรรมดาจะไม่ได้รับสิทธิ์
ให้ขึ้นมาเหยียบบนเกาะ จึงได้มีการสร้างศาลเจ้าที่เป็นแพ ไว้เพื่อให้คนที่จะมาสักการะ
ได้อยู่บนแพ ดังนั้นแต่ก่อนถ้าใครจะมาสักการะศาลเจ้านี้ ก็จะต้องเดินทางมาจากทางน้ำเท่านั้น

Fushimi Inari Shrine (ศาลเจ้าเทพจิ้งจอกฟูชิมิ)

หลายคนที่เคยเห็นคนถ่ายรูปกับฉากหลังที่เป็นประตูศาลเจ้าสีแดงเรียงกันมากมาย
อาจจะสงสัยว่าคือที่ไหน เรามาเฉลยคำตอบให้รู้กันว่าเป็นศาลเจ้า ‘Fushimi Inari Shrine’
ศาลเจ้าชินโตเก่าแก่แห่งเมืองเกียวโต ที่มีการสร้างศาลเจ้านี้ขึ้นมาก่อนที่จะสร้าง
เมืองเกียวโตซะอีก จุดเด่นก็คือที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะมี ประตูโทริอิ (Torii Gate)
เรียงรายเป็นพันๆ หมื่นๆ ต้น จนสามารถเดินได้ทั่วภูเขาอินาริ โดยเชื่อกันว่าที่นี่
เป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ มีสัญลักษณ์เป็นจิ้งจอกที่ถือว่าเป็นสัตว์เทพประจำกายของเทพอินาริ
เทพแห่งความอุดมสมบูรณ์ ภายในศาลเจ้าจึงมีรูปปั้นจิ้งจอกอยู่เต็มไปหมด

Kiyomizudera Temple (วัดน้ำใส)

ใครที่ชอบเที่ยวเมืองเก่า ชอบดูวิถีชีวิต และประเพณีวัฒนธรรม เราขอแนะนำให้มาเที่ยว
ที่เมืองเก่าอย่าง ‘เกียวโต’ (Kyoto) ที่เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นมาอย่างยาวนาน
วัด ‘Kiyomizudera Temple’ หรือที่คนไทยเรียกกันว่าวัดน้ำใส เป็นวัดที่ถือว่าเป็น
หนึ่งในแลนด์มาร์คของเกียวโต และยังเป็นหนึ่งในมรดกโลกอีกด้วย จุดเด่นของวัดน้ำใส
ก็คือจะตั้งอยู่บนไหล่เขาโอตาวะ ทำให้สามารถมองเห็นเมืองเกียวโตมุมสูงได้โดยรอบ
ยิ่งมาในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีก็จะเห็นฉากหลังเป็นใบไม้สีแดงตัดกับวัดที่งดงามเป็นอย่างยิ่ง

Osaka Castle (ปราสาทโอซาก้า)

มาที่เมืองโอซาก้า  กับแลนด์มาร์คของเมืองโอซาก้า ซึ่งเราอาจจะขอข้าม ป้ายกูลิโกะ
ที่โดะทนโบริ (Doutonbori) กันไป เพราะคิดว่าใครๆ ก็คงรู้ดีอยู่แล้ว เลยอยากจะแนะนำ
ให้คุณลองมาเที่ยวที่ ปราสาทโอซาก้า ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญ เพราะเป็นปราสาท
ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางใหม่ของประเทศญี่ปุ่น แต่หลังจากมีการสร้างขึ้นมา
ก็มีการบูรณะมาหลายครั้งแล้วด้วยกัน ปราสาทโอซาก้างดงามเพราะมีทั้งหมด 8 ชั้น
ล้อมรอบไปด้วยสาธารณะญี่ปุ่นที่งดงาม ถ้าใครอยากได้รูปสวยๆ แนะนำให้มาในช่วง
ซากุระบาน เพราะภายในบริเวณปราสาทโอซาก้าจะมีต้นซากุระอยู่มากกว่า 600 ต้น

โตเกียว สกายทรี

หรือหอโทรทัศน์โตเกียวที่ขึ้นชื่อ และเหมือนเป็นแลนด์มาร์คอีกหนึ่งแห่งที่
ไม่ควรพลาดเช่นกัน ถ้าหากว่าเดินทางมาโดยรถไฟใต้ดิน ให้เดินทางมาลงที่
Asakusa Line เพราะมีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และไม่ไกลจากวัดอาซากุสะมากนัก
ด้านบนโตเกียวสกายทรีจะมีจุดชมวิวที่เห็นวิวโตเกียวได้แบบพาโนราม่า 360 องศา
นอกจากนั้นยังมีร้านอาหารบนชั้นดาดฟ้า เหมาะกับการไปนั่งรับประทานอาหารชมวิวสวยๆ

Tokyo Tower

ใครที่มาเที่ยวโตเกียวอย่าลืมแวะมาถ่ายรูปกับ ‘Tokyo Tower’ แลนด์มาร์คอันดับหนึ่ง
ตลอดกาลของเมืองโตเกียว นอกจากจะเป็นแลนด์มาร์คที่สวยงาม และน่าทึ่ง
ยังเป็นหอส่งสัญญาณวิทยุ และโทรทัศน์ โดยมีต้นแบบมาจากหอไอเฟล
แต่โตเกียวทาวเวอร์นั้นจะมีลักษณะเด่นตรงที่เป็นสีแดง นอกจากนั้นคนทั่วไป
สามารถขึ้นไปชมเมืองโตเกียวได้แบบมุมสูงด้านบนโตเกียวทาวเวอร์ได้ด้วย
ถ้าวันไหนอากาศดีๆ ก็จะสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้ด้วย

หากเพื่อนๆสนใจไปเที่ยวไหน ลองโทรมาคุยกันสิคะ

ทัวร์ญี่ปุ่น เที่ยวญี่ปุ่น

เครดิต anngle.org

ทัวร์ญี่ปุ่น


บทความที่เกี่ยวข้อง